ในการตั้งราคาขายปลีก จะต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนขายจริง ซึ่งราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างมาก เราจึงควรคำนวณต้นทุนทั้งหมด ทั้งค่าสินค้า และอื่นๆ เช่น ค่าฝากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น มิเช่นนั้นแล้ว ราคาที่เราตั้งอาจทำให้เราขาดทุนแบบไม่รู้ตัว เราจึงควรศึกษาข้อมูล ดังนี้
.
– ต้นทุนจริง
ตั้งแต่ต้นทุนการผลิตทั้งทางตรงและทางอ้อม ต้นทุนวัสดุหรือวัตถุดิบที่ใช้ เครื่องมือสำนักงาน ในที่นี้รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าไฟค่าน้ำ ค่าเช่าสำนักงาน ที่สำคัญเราไม่ควรลืมค่าใช้จ่ายแฝงที่ไม่คาดคิด ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์โรงงาน ค่าเสื่อมเครื่องจักรต่างๆ
.
– ราคาของคู่แข่งในตลาด
การที่เราจะตั้งราคาให้น่าสนใจและไม่ต่ำและสูงเกินไปเป็นสิ่งที่คสรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก!!! เราควรศึกษาทั้งสินค้าคู่แข่ง และสินค้าทดแทน เพราะเราไม่ได้ผูกขาดเป็นเจ้าเดียวในตลาด การตั้งราคาต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายให้ดี เพื่อสามารถให้ราคาที่เราตั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราได้จริงๆ
– ตัวแทนจำหน่าย
การขายตรงไม่ใช่คำตอบเดียว หรือวิธีเดียวที่เราสามารถขายสินค้าได้ การขายผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ถือว่าสามารถเพิ่มปริมาณในการขายได้แบบรวดเร็ว เราจึงควรตั้งราคาเผื่อสำหรับการฝากขายผ่านคนกลาง เพราะต้องมีค่าฝากขาย หรือค่าคอมมิชชั่น เพื่อลดการขาดทุน และทำให้ราาคาที่ขายยังสามารถทำกำไรได้
..
– ราคา Online
ธุรกิจใดที่มีการขายทั้ง Online และ Offline เราจึงยิ่งต้องพิจารณา เพื่อไม่ได้ราคาต่างกันจนเกินไป ไม่ควรต่ำและสูงเกินไป
.
นอกจากนี้อาจมีปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติมในการตั้งราคาของแต่ละธุรกิจ
เราควรศึกษาข้อมูลทั้งหมดให้ดี เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ