ตลาด E-Commerce กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นอีก จากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่งผลให้ตลาด E-Commerce มีการแข่งขันที่สูงขึ้นตามไปด้วย
เพื่อให้ทันกับการแข่งขันในตลาด E-Commerce ร้านค้าออนไลน์จำเป็นต้องติดตามแนวโน้มอีคอมเมิร์ซใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจ E-Commerce มานานแค่ไหน เพราะหากคุณไม่ติดตามเทรนด์ล่าสุด คุณก็จะล้มหายตายจากไปอย่างง่ายดาย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการมองไปข้างหน้าจึงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในอนาคตของคุณ
แนวโน้มธุจกิจ E-Commerce 6 อันดับแรกของปี 2021
- การช้อปปิ้งบนมือถือ (Mobile Shopping)
การค้าบนมือถือมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ Statista ยอดขายรวมในปี 2020 อยู่ที่ 2.91 ล้านล้านดอลลาร์และคาดว่าจะถึง 3.56 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2021 นอกจากนี้ 72.9% ของยอดขาย E-Commerce ทั้งหมดจะทำผ่านโทรศัพท์มือถือภายในสิ้นปี 2021
ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการปรับปรุง UX ให้รองรับสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อน เพื่อสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของคุณ
- ความสำคัญของ UX (The Importance of UX)
ประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นปัจจัยที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจของคุณไปข้างหน้าหรือทำลายมันได้อย่างสิ้นเชิง จากสถิติของ UX ลูกค้าจำนวน 61% จะเลิกท่องเว็บไซต์ที่ออกแบบมาไม่ดี นั่นคือเหตุผลที่เงินทุกบาทที่คุณลงทุนใน UX นั้นคุ้มค่า เพราะมันเชื่อมโยงลูกค้ากับผลิตภัณฑ์ของคุณ
- การช้อปปิ้งด้วยเสียง (Voice Commerce)
แม้ว่าการช้อปปิ้งด้วยเสียงจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่ก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Voice Commerce จะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไม่ได้ใช้แค่รูปภาพ แต่ลูกค้าต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโดยอธิบายด้วยเสียงว่าพวกเขากำลังมองหาอะไร
- โซเชียลมีเดียในอีคอมเมิร์ซ (Social Media in Ecommerce)
จำนวนคนที่จับจ่ายบนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อ Facebook และ Instagram Checkout ตัดสินใจเพิ่มปุ่ม“ ซื้อ” ลงในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็เริ่มมีบทบาทสำคัญในการค้าบนมือถือทันที
- การให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Awareness Topics)
ผู้บริโภคสีเขียวเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกวัน ผู้บริโภคดิจิทัลเกือบครึ่งหนึ่ง กล่าวว่าความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่แบรนด์ต้องเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
ปัจจุบันผู้คนตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นธุรกิจ E-Commerce ควรเริ่มใช้แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน พวกเขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแนวทางปฏิบัติทั้งหมดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ปัญญาประดิษฐ์ ( Artificial Intelligence)
ผู้ค้าปลีกใช้เงินมหาศาลไปกับ AI และมีแนวโน้มว่าการใช้จ่ายทั่วโลกจะสูงถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2022 สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ค้าปลีกเต็มใจที่จะลงทุนจำนวนมากในเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่พวกเขาต้องการเพื่อปรับปรุงบริการให้กับลูกค้าซึ่งจะทำให้พวกเขาได้เปรียบในการแข่งขัน
เครื่องมือ AI เหล่านี้ ได้แก่ :
6.1ซอฟต์แวร์การตลาดอัตโนมัติ (พร้อมเพื่อสร้างข้อเสนอที่ทันเวลา)
6.2 Chatbots (สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ทันที)
AI จะมีบทบาทสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทต่างๆควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ AI จะสามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ สิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงการบริการลูกค้า
สรุป
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคตลอดเวลา นั่นคือเหตุผลที่ธุรกิจ E-Commerce ต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กับเทรนด์ล่าสุดอยู่เสมอ หากพวกเขาต้องการที่จะประสบความสำเร็จและทำให้ลูกค้าพึงพอใจ